สำหรับท่านที่กำลังมองหาฤกษ์แต่งงาน สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ ท่านไม่ควรมองข้ามนอกจากการมองหาวันดีนั้นคือ การที่แต่งงานควรทราบว่า วันดีหรือวันไม่ดีหรือที่เรียกกันว่า วันชงของตัวท่านเองและว่าที่สามี ดังนั้นการมองหาฤกษ์ดี หรือ ฤกษ์แต่งงานควรที่จะมองหาผู้รู้ในด้านนี้ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยได้ฤกษ์แต่งงานปี 2555 วันนี้เราจึงได้นำฤกษ์แต่งงานวันที่เป็นมงคลตลอดทั้งปี 2555 มารวมไว้ให้ผู้ที่ต้องการวางแผนจะแต่งงานได้จัดเตรียมงานได้ถูกต้องค่ะ
ฤกษ์แต่งงาน ปี 2555
ฤกษ์แต่งงาน ปี 2555 ประจำเดือน 1 มกราคม ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล วันที่ 6 , 16 , 18 , 22 , 30
ฤกษ์แต่งงาน ปี 2555 ประจำเดือน 2 กุมภาพันธ์ ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล วันที่ 3 , 17
ฤกษ์แต่งงาน ปี 2555 ประจำเดือน 3 มีนาคม ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล วันที่ 2 , 5 , 9 , 12 , 19 , 21 , 20 , 23,
ฤกษ์แต่งงาน ปี 2555 ประจำเดือน 4 เมษายน ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล วันที่ 9 , 23
ฤกษ์แต่งงาน ปี 2555 ประจำเดือน 5 พฤษภาคม ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล วันที่ 3 , 9
ฤกษ์แต่งงาน ปี 2555ประจำเดือน 6 มิถุนายน ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล วันที่ 1 , 15 , 29
ฤกษ์แต่งงาน ปี 2555 ประจำเดือน 7 กรกฎาคม ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล วันที่ 19 , 30
ฤกษ์แต่งงาน ปี 2555 ประจำเดือน 8 สิงหาคม ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล วันที่ 3 , 10 , 20 , 30
ฤกษ์แต่งงาน ปี 2555 ประจำเดือน 9 กันยายน ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล วันที่ 14, 24
ฤกษ์แต่งงาน ปี 2555 ประจำเดือน 10 ตุลาคม ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล วันที่ 5 , 8 , 12 , 14 , 19, 22 , 25 ,26
ฤกษ์แต่งงาน ปี 2555 ประจำเดือน 11 พฤศจิกายน ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล วันที่ 9 ,22
ฤกษ์แต่งงาน ปี 2555 ประจำเดือน 12 ธันวาคม ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล วันที่ 9 , 10 , 14 , 20
อย่างไรก็ตามวิธีให้ฤกษ์ในวันนั้นเป็นวันที่สำคัญที่สุด จะต้องมีฤกษ์มอบห้องด้วย ซึ่งในตำราเรียกว่า "ฤกษ์แมลงปอ" (ฤกษ์ส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว) ถ้าวันแต่งงานไม่มีฤกษ์มอบห้อง เจ้าบ่าวต้องนอนเฝ้าหอ นี่เป็นประเพณีโบราณที่สุดแล้ว ซึ่งจะกำหนดฤกษ์มอบห้องไว้ตายตัว ในตำราว่าถ้าเป็นวันข้างขึ้น ต้องขึ้น 7 ค่ำ ขึ้น 10 ค่ำ ขึ้น 13 ค่ำ ถ้าเป็นข้างแรมกำหนดไว้ แรม 4 ค่ำ แรม 8 ค่ำ แรม 10 ค่ำ และแรม 14 ค่ำ ส่วนประเพณีไทยโบราณจะให้ แต่งงานในเดือนคู่ เช่น เดือนยี่ เดือนสี่ เดือนหก เดือนแปด เดือนสิบสอง และเดือนเก้าได้
ขอบคุณข้อมูลจาก Horolive (อ . ตั้ม ศรีนเรศพยากรณ์)
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com
รวม เรื่อง แต่งงาน สถานที่จัดงาน ชุดแต่งงาน การแต่งงาน ขันหมาก และ อีกมากมาย สำหรับการเตรียมตัว แต่งงาน เพื่อ ข้อมูล สำหรับทุกคู่รัก ที่วางแผนแต่งงาน
Tuesday, December 20, 2011
Monday, July 18, 2011
ข้อควรพิจารณา สำหรับการจองโต๊ะจีน
1. วันไปชิมถ่ายรูปกุ๊กไว้ และระบุในสัญญาถ้าวันงานเป็นคนอื่น ไม่จ่ายทั้งหมด
เหตุผล โต๊ะจีนส่วนใหญ่มีกุ๊กฝีมือดีไม่เกิน 2 คน เพราะพวกนี้ค่าจ้างแพง ที่เหลือ เป็นลูกน้องทั้งนั้น หรือไม่ก็ไปจ้างเอาแถวเยาวราช ในวันงานคุณ พวกนี้จะนั่งอยู่ในร้านกาแฟ และถูกเรียกว่ากุ๊กไร้สังกัด (ไม่มีฝีมือนั่นเอง)คนมีฝีมือคงไม่ต้องมานั่งรองาน คงถูกเชิญเข้าร้านอาหารไปหมดแล้ว ชื่อร้านผมจำไม่ได้ แล้ววันงานคุณ ก็เสี่ยงเอาว่าจะได้กุ๊กแบบไหนไปทำให้ วันนัดลูกค้าชิมมักจะให้ไปชิมกับกุ๊กฝีมือดี ส่วนวันงานอีกเรื่อง
2. ถามถึงแหล่งที่มาของวัดถุดิบ
เหตุผล ของจากเยาวราชเชื่อมั่นได้ในคุณภาพ แต่มีราคาแพง ถ้าตลาดบางแค บางใหญ่ รถไฟธนบุรี ของจะอีกเกรด ราคาถูกกว่ามาก กระเพาะปลากีโลละ 100 กว่าบาท ไม่มีขายในเยาวราช
3. ถามเจ้าของว่าวันที่คุณจัดงานเขารับไว้กี่งาน หรือ วันก่อนงานสัก 2 อาทิตย์ เข้าไปขอดู list งานว่า ร้านนั้น รับงานไว้กี่งาน เกิน 2 อย่าเสี่ยง
เหตุผล ตามข้อ 1คุณมีโอกาสจะได้กุ๊กใหญ่ไปอยู่ในงานสักกี่เปอร์เซ็นต์ จึงมักพบกระทู้ที่วันงานจริงกับวันชิมอาหารต่างกันราวฟ้ากับเหว
และได้งานที่ไม่มีคุณภาพเพราะเจ้าของไม่ได้มาคุมเอง โต๊ะจีนทุกเจ้ามีพนักงานประจำไม่กี่คนนอกนั้น pasttime ทั้งสิ้น มาทำงานเพื่อให้ได้ค่าแรง ไม่ได้ทำงานเพื่อเป็นผลงานของร้าน คุณภาพจึงไม่มีอยู่ในความคิด ทำให้เสร็จไปวันวัน
4. อย่าเลือกเพราะถูกและของแถมมากกว่าเจ้าอื่น
เหตุผล ของแถมของฟรี คือของที่ใครๆก็ชอบ จึงเป็นตัวดึงดูดลูกค้า ที่ได้ผลมาก แล้วกิจการโต๊ะจีน ก็แข่งขันกันสูง จึงแข่งกันลดแลกแจกแถม จนเจ้าภาพยังต้องคิด "แล้วเขาจะได้กำไรหรือนี่" แต่ความเป็นจริง ไม่มีใครยอมทำกิจการขาดทุน จึงมักเจอกระทู้ของเจ้าสาวที่มาบ่นเรืองอาหาร หรือของตกแต่งไม่เป็นไปตามที่ตกลง
5. ตกลงอะไรไว้ให้เขียนรายละเอียดลงในเอกสารแนบท้ายสัญญา และมีหมายเหตุกำกับ ถ้าไม่ได้ตามนั้น หรือขาดตกบกพร่องสิ่งใดในวันงาน จะชดใช้อย่างไร
เหตุผล อย่าเชื่อ เพราะคำพูดคน หรือเจ้าของร้าน ร้อยทั้งร้อย ก่อนจัดงาน อัทยาศัยดี เป็นกันเอง คุยง่าย ขอไรได้หมด มุกนี้ทั้งนั้น แต่ถ้าเข้ามาอ่านกะทู้บ่อยๆมักพบเสมอเมื่อมีปัญหาขึ้นมา เจ้าของร้านที่ว่านั่นแหละจะกลายเป็นคนละคนอย่างไม่น่าเชื่อ
6. เจ้าของสถานที่หรือคนรับจอง ผู้ดูแล แนะนำโต๊ะจีนเจ้าไหน ฟังหูไว้หู
เหตุผล บางโต๊ะจีนใช้วิธีให้ผลประโยชน์ตอบแทนกับคนเหล่านี้โต๊ะละ 50-100 บาท โดยเฉพาะสถานที่ที่ไม่เก็บค่าเข้ากับโต๊ะจีน
7.ถามวันที่จัดงานกับเจ้าของโต๊ะหลายๆวันแล้วไม่ต้องบอกว่าจะเข้าไปดูงาน แอบไปสังเกตุการณ์ก่อน โดยไม่ต้องบอก
เหตุผล วันหนึ่งรับ 5 งาน เจ้าของมักนัดให้คุณไปดูงานที่เขาคุมเอง จึงเป็นงานที่สมบูรณืที่สุดดีที่สุด ส่วนอีก 4 งานลูกน้องดูแลแทน
8. กระทู้ที่มีคนชมและเชียร์ อย่าเชื่อมากนัก ถ้าไม่ได้ดูรูปการจัดงาน
เหตุผล เพราะความสวย ความอร่อยของแต่ละคนไม่เท่ากัน กินอาหารร้านเดียวกัน กับเพื่อนยังเจอบ่อยๆ ฉันว่าอร่อย เธอกลับบอกไม่ได้เรื่อง
ฉันว่าอันนี้สวย เธอกลับว่าน่าเกลียด ชอบเข้าไปได้ไง
แค่นี้ก่อนละกัน
หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับเจ้าภาพท่านต่อๆไป
ขอขอบคุณ
คิวฟอเรสท์ หรือ นพเก้าจัดเลี้ยง
เหตุผล โต๊ะจีนส่วนใหญ่มีกุ๊กฝีมือดีไม่เกิน 2 คน เพราะพวกนี้ค่าจ้างแพง ที่เหลือ เป็นลูกน้องทั้งนั้น หรือไม่ก็ไปจ้างเอาแถวเยาวราช ในวันงานคุณ พวกนี้จะนั่งอยู่ในร้านกาแฟ และถูกเรียกว่ากุ๊กไร้สังกัด (ไม่มีฝีมือนั่นเอง)คนมีฝีมือคงไม่ต้องมานั่งรองาน คงถูกเชิญเข้าร้านอาหารไปหมดแล้ว ชื่อร้านผมจำไม่ได้ แล้ววันงานคุณ ก็เสี่ยงเอาว่าจะได้กุ๊กแบบไหนไปทำให้ วันนัดลูกค้าชิมมักจะให้ไปชิมกับกุ๊กฝีมือดี ส่วนวันงานอีกเรื่อง
2. ถามถึงแหล่งที่มาของวัดถุดิบ
เหตุผล ของจากเยาวราชเชื่อมั่นได้ในคุณภาพ แต่มีราคาแพง ถ้าตลาดบางแค บางใหญ่ รถไฟธนบุรี ของจะอีกเกรด ราคาถูกกว่ามาก กระเพาะปลากีโลละ 100 กว่าบาท ไม่มีขายในเยาวราช
3. ถามเจ้าของว่าวันที่คุณจัดงานเขารับไว้กี่งาน หรือ วันก่อนงานสัก 2 อาทิตย์ เข้าไปขอดู list งานว่า ร้านนั้น รับงานไว้กี่งาน เกิน 2 อย่าเสี่ยง
เหตุผล ตามข้อ 1คุณมีโอกาสจะได้กุ๊กใหญ่ไปอยู่ในงานสักกี่เปอร์เซ็นต์ จึงมักพบกระทู้ที่วันงานจริงกับวันชิมอาหารต่างกันราวฟ้ากับเหว
และได้งานที่ไม่มีคุณภาพเพราะเจ้าของไม่ได้มาคุมเอง โต๊ะจีนทุกเจ้ามีพนักงานประจำไม่กี่คนนอกนั้น pasttime ทั้งสิ้น มาทำงานเพื่อให้ได้ค่าแรง ไม่ได้ทำงานเพื่อเป็นผลงานของร้าน คุณภาพจึงไม่มีอยู่ในความคิด ทำให้เสร็จไปวันวัน
4. อย่าเลือกเพราะถูกและของแถมมากกว่าเจ้าอื่น
เหตุผล ของแถมของฟรี คือของที่ใครๆก็ชอบ จึงเป็นตัวดึงดูดลูกค้า ที่ได้ผลมาก แล้วกิจการโต๊ะจีน ก็แข่งขันกันสูง จึงแข่งกันลดแลกแจกแถม จนเจ้าภาพยังต้องคิด "แล้วเขาจะได้กำไรหรือนี่" แต่ความเป็นจริง ไม่มีใครยอมทำกิจการขาดทุน จึงมักเจอกระทู้ของเจ้าสาวที่มาบ่นเรืองอาหาร หรือของตกแต่งไม่เป็นไปตามที่ตกลง
5. ตกลงอะไรไว้ให้เขียนรายละเอียดลงในเอกสารแนบท้ายสัญญา และมีหมายเหตุกำกับ ถ้าไม่ได้ตามนั้น หรือขาดตกบกพร่องสิ่งใดในวันงาน จะชดใช้อย่างไร
เหตุผล อย่าเชื่อ เพราะคำพูดคน หรือเจ้าของร้าน ร้อยทั้งร้อย ก่อนจัดงาน อัทยาศัยดี เป็นกันเอง คุยง่าย ขอไรได้หมด มุกนี้ทั้งนั้น แต่ถ้าเข้ามาอ่านกะทู้บ่อยๆมักพบเสมอเมื่อมีปัญหาขึ้นมา เจ้าของร้านที่ว่านั่นแหละจะกลายเป็นคนละคนอย่างไม่น่าเชื่อ
6. เจ้าของสถานที่หรือคนรับจอง ผู้ดูแล แนะนำโต๊ะจีนเจ้าไหน ฟังหูไว้หู
เหตุผล บางโต๊ะจีนใช้วิธีให้ผลประโยชน์ตอบแทนกับคนเหล่านี้โต๊ะละ 50-100 บาท โดยเฉพาะสถานที่ที่ไม่เก็บค่าเข้ากับโต๊ะจีน
7.ถามวันที่จัดงานกับเจ้าของโต๊ะหลายๆวันแล้วไม่ต้องบอกว่าจะเข้าไปดูงาน แอบไปสังเกตุการณ์ก่อน โดยไม่ต้องบอก
เหตุผล วันหนึ่งรับ 5 งาน เจ้าของมักนัดให้คุณไปดูงานที่เขาคุมเอง จึงเป็นงานที่สมบูรณืที่สุดดีที่สุด ส่วนอีก 4 งานลูกน้องดูแลแทน
8. กระทู้ที่มีคนชมและเชียร์ อย่าเชื่อมากนัก ถ้าไม่ได้ดูรูปการจัดงาน
เหตุผล เพราะความสวย ความอร่อยของแต่ละคนไม่เท่ากัน กินอาหารร้านเดียวกัน กับเพื่อนยังเจอบ่อยๆ ฉันว่าอร่อย เธอกลับบอกไม่ได้เรื่อง
ฉันว่าอันนี้สวย เธอกลับว่าน่าเกลียด ชอบเข้าไปได้ไง
แค่นี้ก่อนละกัน
หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับเจ้าภาพท่านต่อๆไป
ขอขอบคุณ
คิวฟอเรสท์ หรือ นพเก้าจัดเลี้ยง
Sunday, April 24, 2011
ชุดเจ้าสาวเซ็กซี่ สวยมากๆ ไอเดียชุดเจ้าสาว สุดประทับใจ
ชุดเจ้าสาวเซ็กซี่ สวยมากๆ ไอเดียชุดเจ้าสาว สุดประทับใจ ไม่ว่าใคร ก้อ ต้องประทับใจค่ะ เอามาฝากกัน ค่ะ
Wednesday, March 16, 2011
เค้กแต่งงาน
เลือกเค้กแต่งงานให้ตรงใจ
เค้กแต่งงาน ถือเป็นขนมมงคลที่มีความสำคัญในพิธีแต่งงานมาตั้งแต่อดีตกาล โดยมีความเป็นมาจากในสมัยกรีก-โรมัน เมื่อ 5,000 ปีมาแล้ว ซึ่งสมัยนั้นเมื่อมีพิธีแต่งงาน เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องนำผลไม้และขนมปังมาเป็นเครื่องบรรณาการ บวงสรวงเทพเจ้า เพื่อขอพรให้ชีวิตของทั้งคู่ครองรักกันอย่างมีความสุข ผู้ที่เป็นแขกรับเชิญต่างก็พร้อมใจกันพกพาขนมปังของตนเองมาร่วมในพิธี โดยนำมาวางเรียงกันเป็นกองๆ แล้วให้คู่บ่าวสาวจุมพิตกัน เหนือกองขนมปังดังกล่าว เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรักที่ทั้งสองมีต่อกัน และประกาศว่านับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ฉันและเธอจะรักและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันตลอดไป ซึ่งแขกเหรื่อเจ้าของขนมปังเหล่านั้น ก็คือสักขีพยานในความรักของทั้งคู่ นั่นเอง
ต่อมารูปแบบของขนมปังก็เปลี่ยนไป เมื่อพ่อครัวชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งได้นำน้ำตาลและครีมที่มีอยู่ในครัว มาตกแต่งบนกองขนมปังที่แสนจะธรรมดานั้นให้สวยงามยิ่งขึ้น และตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "ขนมเค้ก"
เค้กแต่งงานมีความหมายอย่างไร
นอกจากความรักที่คู่บ่าวสาวมีให้แก่กันแล้ว เค้กยังถือเป็นหัวใจสำคัญของการแต่งงานเลยทีเดียว ทั้งนี้ เพราะชาวยุโรปเชื่อว่าเค้กแต่งงานชิ้นแรกที่คู่บ่าวสาวตัด และนำมาป้อนให้แก่กันและกันนั้น คืออาหารมื้อแรกที่ทั้งคู่ได้แบ่งปันให้แก่กันในฐานะคู่ชีวิต โดยเฉพาะ ถ้าเค้กดังกล่าวถูกทำขึ้นด้วยฝีมือของแม่เจ้าบ่าว หรือแม่เจ้าสาว ความหมายและความศักดิ์สิทธิ์ของเค้กแต่งงานก็จะยิ่งทวีค่าเพิ่มขึ้นอีกมากทีเดียว...
วิธีการเลือกเค้กแต่งงาน
เค้กที่ใช้สำหรับพิธีแต่งงาน มักจะเป็นเค้กที่ต่อกันเป็นชั้นๆ ซึ่งจำนวนชั้นของเค้กแต่งงานมักนิยมเป็นเลขคี่ อาทิ 3 ชั้น 5 ชั้น 7 ชั้น โดยจะไม่เกิน 9 ชั้น โดยเริ่มต้นจาก 3 ชั้นเป็นมาตรฐาน เพราะว่าบรรดาแขกที่มาร่วมงานจะได้มองเห็นชั้นบนสุดของเค้กแต่งงานได้อย่างชัดเจน ส่วนในการวางเค้กซ้อนกันนั้น มักนิยมขั้นก้อนเค้กด้วยเสา ซึ่งเค้กแต่งงานชนิดนี้เรียกว่า "เค้กแต่งงานแบบอเมริกัน" นั่นเอง
แต่ก็มีบางคนที่นิยมใช้เค้กชั้นเดียว ที่มีขนาดใหญ่จะเน้นการตกแต่งให้มีความหลากหลาย เค้กแต่งงานชนิดนี้ว่า "เค้กแต่งงานแบบแฟนซี" ซึ่งเค้กแต่งงานชนิดนี้มักจะนิยมเลือกใช้กับงานที่มีเวทีไม่สูงมากนัก
เค้กแต่งงานที่ดีนั้นจะต้องมีเนื้อเค้กที่แน่น พอที่จะรองรับน้ำหนักของเค้กชั้นบนสุดได้ ซึ่งมักจะถูกตกแต่งด้วยวัสดุต่างๆ จำพวกน้ำตาลที่ขึ้นรูป หรือผลไม้ที่นำมาใช้ในการตกแต่งยอดเค้กให้สวยงาม ยิ่งถ้าเป็นเค้กที่วางซ้อนกันหลายๆ ชั้นด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเค้กเนื้อไม่แน่น อาจทำให้เค้กชั้นบนสุดทลายลงมาได้
เลือกเค้กให้เหมาะกับสถานที่จัดงาน
ถ้าสถานที่จัดงานอยู่ใกล้กับร้านที่เราสั่งเค้กก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าสถานที่จัดงานอยู่ไกลออกไปอาจต้องคำนึงถึงเรื่องของการขนส่ง การจัดงานกลางแจ้งควรหลีกเลี่ยงเค้กที่แต่งหน้าด้วยบัตเตอร์ครีม, ช็อกโกแลต หรือวีปครีม ทั้งนี้เพราะอากาศบ้านเรานั้น ร้อนเกินกว่าที่หน้าเค้กจะสามารถทนทานได้ ทางออกที่ดีก็คือการเลือกใช้ ฟรุ๊ตเค้ก ดีไซน์เก๋ๆ น่าจะเหมาะกว่า
อย่างไรก็ตาม การเลือกเค้กแต่งงานย่อมขึ้นอยู่กับงบประมาณ ด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะนิยมใช้เค้กแต่งงานที่มีราคาปานกลาง เช่น
เค้กเนื้อพันจ์
รสวนิลา กาแฟ หรือช็อกโกแลต ซึ่งราคาไม่สูงนัก แต่ต้องเลือกร้านที่ดีพอสมควร โดยดูที่เนื้อเค้กว่าเนื้อเค้ก ในร้านนั้นแน่นมั้ย ครีมที่ใช้เนียนมั้ย เนื้อเค้กหอมหวานรึเปล่า ทานแล้วรสนุ่มกลมกล่อมหรือเปล่า ถ้าทุกอย่างผ่านก็โอเค และหากเป็นไปได้ก็ควรเลือกเค้กซึ่งเป็นร้านเจ้าประจำที่เคยทาน จะเป็นการดีที่สุดสำหรับเค้กที่แพงขึ้นมาอีกขั้น ก็จะเป็นเค้กจำพวก...
บัตเตอร์เค้ก หรือเค้กเนยสด
เนื้อเค้กจะมีความแน่นมากกว่าแบบแรก และเป็นที่นิยมทานกันมากที่สุด
ฟรุ๊ตเค้ก
ซึ่งเนื้อเค้กชนิดนี้จะมีความแน่น และชุ่มชื้นมากกว่าเค้กชนิดอื่น เพราะเนื้อเค้กชนิดนี้มีผลไม้ต่างๆ คลุกเคล้าผสมอยู่ฟรุ๊ตเค้ก เป็นที่นิยมมากในงานแต่งงานของชาวตะวันตก เพราะชาวตะวันตกเชื่อว่า ผลไม้ต่างๆ นั้นหมายถึงการขยายพันธุ์ และการมีลูกหลานสืบต่อไป ดังนั้นจึงนิยมนำผลไม้นานาชนิดมาผสมรวมลงไปในเนื้อเค้ก ซึ่งสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปี ด้วยการนำลูกนัทมาหมักกับบรั่นดี หรือเหล้ารัม แล้วใส่ลงไปในเค้ก ซึ่งตามธรรมเนียมอันเก่าแก่นั้น คู่บ่าวสาวจะต้องเก็บเค้กชั้นบนซึ่งเป็นเค้กชั้นที่เล็กที่สุดเอาไว้ เพื่อนำออกมาทานในวันครบรอบแต่งงานในปีแรกอีกด้วย
เค้กแต่งงาน ถือเป็นขนมมงคลที่มีความสำคัญในพิธีแต่งงานมาตั้งแต่อดีตกาล โดยมีความเป็นมาจากในสมัยกรีก-โรมัน เมื่อ 5,000 ปีมาแล้ว ซึ่งสมัยนั้นเมื่อมีพิธีแต่งงาน เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องนำผลไม้และขนมปังมาเป็นเครื่องบรรณาการ บวงสรวงเทพเจ้า เพื่อขอพรให้ชีวิตของทั้งคู่ครองรักกันอย่างมีความสุข ผู้ที่เป็นแขกรับเชิญต่างก็พร้อมใจกันพกพาขนมปังของตนเองมาร่วมในพิธี โดยนำมาวางเรียงกันเป็นกองๆ แล้วให้คู่บ่าวสาวจุมพิตกัน เหนือกองขนมปังดังกล่าว เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรักที่ทั้งสองมีต่อกัน และประกาศว่านับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ฉันและเธอจะรักและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันตลอดไป ซึ่งแขกเหรื่อเจ้าของขนมปังเหล่านั้น ก็คือสักขีพยานในความรักของทั้งคู่ นั่นเอง
ต่อมารูปแบบของขนมปังก็เปลี่ยนไป เมื่อพ่อครัวชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งได้นำน้ำตาลและครีมที่มีอยู่ในครัว มาตกแต่งบนกองขนมปังที่แสนจะธรรมดานั้นให้สวยงามยิ่งขึ้น และตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "ขนมเค้ก"
เค้กแต่งงานมีความหมายอย่างไร
นอกจากความรักที่คู่บ่าวสาวมีให้แก่กันแล้ว เค้กยังถือเป็นหัวใจสำคัญของการแต่งงานเลยทีเดียว ทั้งนี้ เพราะชาวยุโรปเชื่อว่าเค้กแต่งงานชิ้นแรกที่คู่บ่าวสาวตัด และนำมาป้อนให้แก่กันและกันนั้น คืออาหารมื้อแรกที่ทั้งคู่ได้แบ่งปันให้แก่กันในฐานะคู่ชีวิต โดยเฉพาะ ถ้าเค้กดังกล่าวถูกทำขึ้นด้วยฝีมือของแม่เจ้าบ่าว หรือแม่เจ้าสาว ความหมายและความศักดิ์สิทธิ์ของเค้กแต่งงานก็จะยิ่งทวีค่าเพิ่มขึ้นอีกมากทีเดียว...
วิธีการเลือกเค้กแต่งงาน
เค้กที่ใช้สำหรับพิธีแต่งงาน มักจะเป็นเค้กที่ต่อกันเป็นชั้นๆ ซึ่งจำนวนชั้นของเค้กแต่งงานมักนิยมเป็นเลขคี่ อาทิ 3 ชั้น 5 ชั้น 7 ชั้น โดยจะไม่เกิน 9 ชั้น โดยเริ่มต้นจาก 3 ชั้นเป็นมาตรฐาน เพราะว่าบรรดาแขกที่มาร่วมงานจะได้มองเห็นชั้นบนสุดของเค้กแต่งงานได้อย่างชัดเจน ส่วนในการวางเค้กซ้อนกันนั้น มักนิยมขั้นก้อนเค้กด้วยเสา ซึ่งเค้กแต่งงานชนิดนี้เรียกว่า "เค้กแต่งงานแบบอเมริกัน" นั่นเอง
แต่ก็มีบางคนที่นิยมใช้เค้กชั้นเดียว ที่มีขนาดใหญ่จะเน้นการตกแต่งให้มีความหลากหลาย เค้กแต่งงานชนิดนี้ว่า "เค้กแต่งงานแบบแฟนซี" ซึ่งเค้กแต่งงานชนิดนี้มักจะนิยมเลือกใช้กับงานที่มีเวทีไม่สูงมากนัก
เค้กแต่งงานที่ดีนั้นจะต้องมีเนื้อเค้กที่แน่น พอที่จะรองรับน้ำหนักของเค้กชั้นบนสุดได้ ซึ่งมักจะถูกตกแต่งด้วยวัสดุต่างๆ จำพวกน้ำตาลที่ขึ้นรูป หรือผลไม้ที่นำมาใช้ในการตกแต่งยอดเค้กให้สวยงาม ยิ่งถ้าเป็นเค้กที่วางซ้อนกันหลายๆ ชั้นด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเค้กเนื้อไม่แน่น อาจทำให้เค้กชั้นบนสุดทลายลงมาได้
เลือกเค้กให้เหมาะกับสถานที่จัดงาน
ถ้าสถานที่จัดงานอยู่ใกล้กับร้านที่เราสั่งเค้กก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าสถานที่จัดงานอยู่ไกลออกไปอาจต้องคำนึงถึงเรื่องของการขนส่ง การจัดงานกลางแจ้งควรหลีกเลี่ยงเค้กที่แต่งหน้าด้วยบัตเตอร์ครีม, ช็อกโกแลต หรือวีปครีม ทั้งนี้เพราะอากาศบ้านเรานั้น ร้อนเกินกว่าที่หน้าเค้กจะสามารถทนทานได้ ทางออกที่ดีก็คือการเลือกใช้ ฟรุ๊ตเค้ก ดีไซน์เก๋ๆ น่าจะเหมาะกว่า
อย่างไรก็ตาม การเลือกเค้กแต่งงานย่อมขึ้นอยู่กับงบประมาณ ด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะนิยมใช้เค้กแต่งงานที่มีราคาปานกลาง เช่น
เค้กเนื้อพันจ์
รสวนิลา กาแฟ หรือช็อกโกแลต ซึ่งราคาไม่สูงนัก แต่ต้องเลือกร้านที่ดีพอสมควร โดยดูที่เนื้อเค้กว่าเนื้อเค้ก ในร้านนั้นแน่นมั้ย ครีมที่ใช้เนียนมั้ย เนื้อเค้กหอมหวานรึเปล่า ทานแล้วรสนุ่มกลมกล่อมหรือเปล่า ถ้าทุกอย่างผ่านก็โอเค และหากเป็นไปได้ก็ควรเลือกเค้กซึ่งเป็นร้านเจ้าประจำที่เคยทาน จะเป็นการดีที่สุดสำหรับเค้กที่แพงขึ้นมาอีกขั้น ก็จะเป็นเค้กจำพวก...
บัตเตอร์เค้ก หรือเค้กเนยสด
เนื้อเค้กจะมีความแน่นมากกว่าแบบแรก และเป็นที่นิยมทานกันมากที่สุด
ฟรุ๊ตเค้ก
ซึ่งเนื้อเค้กชนิดนี้จะมีความแน่น และชุ่มชื้นมากกว่าเค้กชนิดอื่น เพราะเนื้อเค้กชนิดนี้มีผลไม้ต่างๆ คลุกเคล้าผสมอยู่ฟรุ๊ตเค้ก เป็นที่นิยมมากในงานแต่งงานของชาวตะวันตก เพราะชาวตะวันตกเชื่อว่า ผลไม้ต่างๆ นั้นหมายถึงการขยายพันธุ์ และการมีลูกหลานสืบต่อไป ดังนั้นจึงนิยมนำผลไม้นานาชนิดมาผสมรวมลงไปในเนื้อเค้ก ซึ่งสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปี ด้วยการนำลูกนัทมาหมักกับบรั่นดี หรือเหล้ารัม แล้วใส่ลงไปในเค้ก ซึ่งตามธรรมเนียมอันเก่าแก่นั้น คู่บ่าวสาวจะต้องเก็บเค้กชั้นบนซึ่งเป็นเค้กชั้นที่เล็กที่สุดเอาไว้ เพื่อนำออกมาทานในวันครบรอบแต่งงานในปีแรกอีกด้วย
เค้กแต่งงาน
Saturday, March 12, 2011
แต่งหน้าเจ้าสาวสไตล์คลาสสิก (Bride International)
แต่งหน้าเจ้าสาวสไตล์คลาสสิก (Bride International)
เมคอัพ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบทประพันธ์ของ William Shakespeare และบทเพลงคลาสสิก La Vie En Rose รวมทั้งความงามล้ำสมัยจากรันเวย์ Chanel ที่เนรมิตรความงดงามให้กับเจ้าสาวราวกับเสกมนตร์
เมคอัพ ที่ได้รับแรงบันดาลใจ จากเรื่องราวความรักอันแสนโรแมนติกจากวรรณกรรมคลาสสิกของ William Shakespeare ด้วยการใช้โทนสีธรรมชาติ ในการแต่งแต้มสีสันลงบนใบหน้า โดยการใช้สีชมพูในการไล่น้ำหนัก ให้เกิดมิติและทำให้ใบหน้าของนางแบบดูอ่อนหวานมากยิ่งขึ้น
และสามารถเพิ่มความวาวให้กับเปลือกตา เพื่อให้โดดเด่นเป็นประกาย ด้วยการเลือกใช้ Eye Shadow ที่มีส่วนผสมของ Glitter ลงบาง ๆ บริเวณหัวตาและหางตาด้านล่าง เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เป็นเจ้าสาวแสนหวานในวันพิเศษของคุณ
เมคอัพ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบทประพันธ์ของ William Shakespeare และบทเพลงคลาสสิก La Vie En Rose รวมทั้งความงามล้ำสมัยจากรันเวย์ Chanel ที่เนรมิตรความงดงามให้กับเจ้าสาวราวกับเสกมนตร์
เมคอัพ ที่ได้รับแรงบันดาลใจ จากเรื่องราวความรักอันแสนโรแมนติกจากวรรณกรรมคลาสสิกของ William Shakespeare ด้วยการใช้โทนสีธรรมชาติ ในการแต่งแต้มสีสันลงบนใบหน้า โดยการใช้สีชมพูในการไล่น้ำหนัก ให้เกิดมิติและทำให้ใบหน้าของนางแบบดูอ่อนหวานมากยิ่งขึ้น
และสามารถเพิ่มความวาวให้กับเปลือกตา เพื่อให้โดดเด่นเป็นประกาย ด้วยการเลือกใช้ Eye Shadow ที่มีส่วนผสมของ Glitter ลงบาง ๆ บริเวณหัวตาและหางตาด้านล่าง เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เป็นเจ้าสาวแสนหวานในวันพิเศษของคุณ
Tuesday, March 1, 2011
Subscribe to:
Posts (Atom)